เมื่อต้นเดือนมีโอกาสได้ไปที่อยุธยา ตลาดน้ำคลองสระบัว เห็นป้ายบอกทางไป ตลาดน้ำอโยธยา แทบจะทุกแยกของเมืองพระนครศรีอยุธยา เลยคิดว่าต้องหาโอกาสมารีวิว ตลาดน้ำอโยธยา ให้ได้
วันเสาร์นี้ว่างพอดีเลยขับรถไปเที่ยว ตลาดน้ำอโยธยา การเดินทางจากกรุงเทพฯ ถ้าขับรถไปก็สะดวกมาครับ ออกไปทางรังสิต เข้าสายเอเชีย อ่านตามป้ายที่บอกทางไปอยุธยา เลี้ยวซ้ายแรกที่ถนนสายเอเชีย เข้าเมืองอยุธยา เลี้ยวขวาที่สองตรงวงเวียนเจดีย์ จางวงเวียนเจดีย์ ไปอีก 1 กิโลเมตรจะเห็นทางเข้าตลาดน้ำอโยธยา ใหญ่มาก มีรถเข้าออกตลอด รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ ไป ตลาดน้ำอโยธยา ประมาณ 80 กิโลเมตรเท่านั้น
ที่ตลาดน้ำอโยธยามีที่จอดรถ จอดฟรีได้มากกว่า 500 คัน ถึงจะมีเยอะขนาดนี้ที่จอดก็เต็มตลอดครับ ถ้าอยากจอดสะดวกก็จอดแบบเสียเงินได้ คงเป็นที่ของชาวบ้านแถวนั้น คันละ 20 บาท
หลังจากจอดรถเสร็จจะต้องเดินเข้าตลาดน้ำ ผ่านศาลาเรือนไทย เรือไม้ กำแพงเมืองตลาดน้ำอโยธยา บรรยากาศดีมากครับ บ้านไม้ทรงไทยแบบนี้หาชมได้ยาก
คลองที่อยู่หน้าบ้าน ดูแล้วน่าจะเป็นคลองที่ขุดขึ้นใหม่ แต่สะอาดและดูเป็นธรรมชาติ
ใครที่มาเที่ยวตลาดน้ำอโยธยา มักมาถ่ายรูปกับฉากหลังที่เป็นกำแพง มีคำว่า “ตลาดน้ำอโยธยา”
เดินข้ามสะพานไม้ไปยังส่วนของตลาด
เห็นคนเยอะแบบนี้เชื่อไหมครับว่าตลาดน้ำอโยธยายังไม่เปิดอย่างเป็นทางการเลย เิปิดตัวครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการวันที่ 2 พ.ค. 2553 และจะเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 5 มิ.ย. 53 อ้อ..ตลาดน้ำอโยธยาสามารถเข้าได้ฟรีนะครับ ไม่เสียค่าเข้า
ลักษณะของตลาดน้ำอโยธยา เป็นเหมือนบึงขนาดใหญ่ แล้วสร้างร้านค้าและทางเดินโดยรอบ มีการสร้างเป็นเกาะอยู่ตรงกลาง มีสะพานไม้เชื่อมต่อถึงกัน ดูแล้วคล้ายๆ กับตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา แต่ใหญ่กว่า และดูสวยกว่า
ในแต่ละโซนจะตั้งชื่อเหมือนตลาดในจังหวัดอยุธยา เช่นโซนตลาดเจ้าพรหม, โซนตลาดเสนา
พื้นที่เดินรอบ โครงการ
ดูจากเวบไซต์ของตลาดน้ำอโยธยาแล้ว รวมกับที่ได้ไปมา เค้าตั้งใจจะให้ตลาดน้ำอโยธยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและศึกษาเชิงอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาทั้ง ด้านการแต่งกายสถาปัตยกรรมที่งดงามและคงเอกลักษณ์ขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่น และแสดงพื้นบ้าน ของกินของใช้ในยุคเก่า วิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยๆ ที่เรียบง่าย
บ้านเรือนไทยในภาพด้านบนและด้านล่างนั้น เป็นส่วนของเกาะที่ตั้งอยู่กลางน้ำ สามารถข้ามสะพานมาชมได้ครับ
เดินไประหว่างทางจะเห็นถังดับเพลิงและห่วงยาง อยู่เป็นระยะ แสดงถึงความเอาใจใส่ในความปลอดภัย
เรือขายขนม อาหาร สร้างบรรยากาศแบบตลาดน้ำ ที่นี่มีเรือขายสินค้า อาหารทั้งหมด 50 ลำ และร้านค้าอีก 249 ร้านค้า
เสียดายว่าวันที่ไปเราไม่มีเวลามาก เลยไม่ได้ชมการแสดง ในส่วนของการแสดงนั้นสามารถชมได้ฟรีครับ อ่าน comment ของคนที่เคยชมการแสดง บอกว่าแสดงดีมากเล่นจริง เจ็บจริง แสดงโดยนักแสดงระดับครู
ในส่วนของกิน มีให้เลือกซื้อเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นขนมแบบไทยๆ ก๋วยเตี๋ยวเรือ ส้มตำ ไก่ย่าง น้ำตก อาหารทะเลเผายังมีเลยครับ ที่นั่งกินก็มีทั้งแบบโต๊ะ หรือจะปูเสื่อกินริมน้ำก็ได้บรรยกาศไปอีกแบบ
สำหรับกิจกรรม ที่นี่มีกิจกรรมขี่ช้างด้วยครับ เนื่องจากอยู่ที่เดียวกับปางช้างอโยธยา (ข้างวัดมเหยงคณ์) รู้สึกว่าจะคนละ 40-50 บาท นี่แหล่ะ ถูกมากครับ ก็จะขี่ชมโบราณสถานเก่าวัดมเหยงคณ์
สรุป
ตั้งแต่ไปเที่ยวตลาดน้ำต่างๆ มา ยอมรับเลยว่าตลาดน้ำอโยธยา ทำได้ดีมาก สมบูรณ์แบบทั้งการจัดการ การวางผัง ร้านค้า อาหาร บรรยากาศ ดูดีไปหมด อีกทั้งยังไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย โดยส่วนตัวแล้วชอบที่นี่มาก คิดว่าคงต้องหาเวลามาใหม่อีกครั้งเร็วๆ นี้แน่นอนครับ
มุมเดิมกับครั้งที่แล้ว แต่ฟ้าใส ไร้เมฆ
ช่วง 10 โมง คนยังมากันไม่เยอะ ถ่ายรูปสะดวกครับ
เข้าไปเดินด้านในตลาดกันครับ
ร้านขายเสื้อ และของที่ละลึก
เรือขายขนมไทย ทำน่ากินดีครับใส่กระเบื้องดินเผา
รอบๆ ตลาดบัวชม ในโซนนี้ขายอาหารครับ เห็นก๋วยเตี๋ยวเรือหลายร้าน น่าทานมาก
เรือพายลำนี้เหมือนจะ เก็บขยะที่อยู่ในน้ำ
เดินได้สักพักเดียว เกิดอยากเข้าห้องน้ำ เห็นป้ายชี้ไปยังห้องน้ำ ห้องน้ำอยู่ในท่อนซุงครับ ลักษณะเหมือนไม้จริงมาก ตอนแรกผมนึกว่าไม้จริง ห้องน้ำเสียค่าเข้าคนละ 3 บาทครับ ห้องน้ำสะอาด ดูดีมาก ที่ฝั่งโถปัสสาวะเป็นผนังกระจก เห็นน้ำตกจำลองที่อยู่ด้านนอก ตกแต่งสวยครับ พอดีว่ามีคนทำธุระอยู่ในห้องน้ำ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู
สำหรับคนที่ชอบนวด คลายเส้น แนะนำโซนตลาดผักไห่ครับ มีนวดตัวแผนไทย นวดคลาดเครียด นวดเท้า สปา รับรองว่านวดเสร็จเดินตัวเบาออกมาเลย
มาดูในส่วนของกินบ้าง มีร้านอาหารหลายร้าน ให้เลือกซื้อ เลือกชิมกัน เช่น ผัดไทย หอยทอด ก๋วยเตี๋ยวเรือ อยุธยา
ซื้อแล้วก็มานั่งทานกันตรงนี้เลย
ที่นั่งมีพอสมควร แต่ช่วงเวลาที่คนมาเยอะๆ ก็ไม่พอนั่งเหมือนกัน
ถ้าเดินไปที่เกาะกลาง ตลาดบัวชม จะเป็นที่นั่งในร่ม ซ้าย-ขวาก็จะมีแม่ค้าพายเรือมาขายของ ได้บรรยากาศแบบตลาดน้ำเลยครับ ซื้อของกินกันแล้วก็กินบนเสื่อเลย ง่ายดี
เดินไปได้สักพัก ได้ยินเสียงประกาศว่ามีการแสดงรอบ 10.30 น. ที่หอศิลป์
หอศิลป์จะตั้งอยู่ที่เกาะกลางน้ำ ถ้าอยากจะชมการแสดง เราก็ต้องหาทำเลที่ทางเดินรอบๆ ดูแล้วไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ก็ยืนดูครับ การแสดงแรกที่เราดูนั้นเป็น การแสดง อาวุธโบราณ โดย สำนักดาบ ศ.พุทไธสวรรค์ เนื้อเรื่องไม่มี แต่พอจะเดาได้ว่าเป็นการรบระหว่างไทยกับพม่า นักแสดงฟันดาบกันจริงๆ ครับ เสียบดาบกระทบกันตลอด กว่าจะเป็นการแสดงชุดนี้คงต้องซ้อมกันไม่น้่อยเลยทีเดียว ถึงได้่รู้จังหวะกันแบบนี้
ต่อไปเป็นการแสดง นาฏศิลป 4 ภาค ก็เป็นการรำของภาคต่างๆ
ใช้เลนส์เทเล ซูมเข้าไปที่นักแสดงครับ
ระหว่างดูการแสดงมีเรือพายผ่านมาพอดี เป็นเรือพาเที่ยมชมรอบๆ ตลาดน้ำอโยธยา ค่าบริการคนละ 20 บาท
นอกจากการแสดงแบบไทยๆแล้ว ยังมีการนำช้างมาเล่นน้ำคลายร้อน เห็นป้ายบอกไว้ว่าน้ำลึก 3 เมตร ดูแล้วก็น่าจะจริง เพราะช้างลงไปทั้งตัว ยังโผล่ได้แค่หัวเลย ตอนแรกมาเล่นน้ำกัน 2-3 เชือก
มีสมาชิกมาลงเล่นน้ำเพิ่มอีก 2 เชือก
เล่นน้ำกันอย่างมีความสุข อยากเห็นช้างอยู่ในที่ๆ มันควรจะอยู่ มากกว่าเห็นช้างเดินตามท้องถนน
ภาพธงชาตินี้ สำหรับคนไทยทุกคนครับ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะขี่ช้าง ทางตลาดน้ำอโยธยา ก็มีบริการขี่ช้างพาเที่ยวชมโบราณสถาน วัดมเหยงคณ์ ค่าบริการคนละ 100 บาท รอบนึงประมาณ 20 นาทีได้ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=864811225807911038
วันเสาร์นี้ว่างพอดีเลยขับรถไปเที่ยว ตลาดน้ำอโยธยา การเดินทางจากกรุงเทพฯ ถ้าขับรถไปก็สะดวกมาครับ ออกไปทางรังสิต เข้าสายเอเชีย อ่านตามป้ายที่บอกทางไปอยุธยา เลี้ยวซ้ายแรกที่ถนนสายเอเชีย เข้าเมืองอยุธยา เลี้ยวขวาที่สองตรงวงเวียนเจดีย์ จางวงเวียนเจดีย์ ไปอีก 1 กิโลเมตรจะเห็นทางเข้าตลาดน้ำอโยธยา ใหญ่มาก มีรถเข้าออกตลอด รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ ไป ตลาดน้ำอโยธยา ประมาณ 80 กิโลเมตรเท่านั้น
ที่ตลาดน้ำอโยธยามีที่จอดรถ จอดฟรีได้มากกว่า 500 คัน ถึงจะมีเยอะขนาดนี้ที่จอดก็เต็มตลอดครับ ถ้าอยากจอดสะดวกก็จอดแบบเสียเงินได้ คงเป็นที่ของชาวบ้านแถวนั้น คันละ 20 บาท
หลังจากจอดรถเสร็จจะต้องเดินเข้าตลาดน้ำ ผ่านศาลาเรือนไทย เรือไม้ กำแพงเมืองตลาดน้ำอโยธยา บรรยากาศดีมากครับ บ้านไม้ทรงไทยแบบนี้หาชมได้ยาก
คลองที่อยู่หน้าบ้าน ดูแล้วน่าจะเป็นคลองที่ขุดขึ้นใหม่ แต่สะอาดและดูเป็นธรรมชาติ
ใครที่มาเที่ยวตลาดน้ำอโยธยา มักมาถ่ายรูปกับฉากหลังที่เป็นกำแพง มีคำว่า “ตลาดน้ำอโยธยา”
เดินข้ามสะพานไม้ไปยังส่วนของตลาด
เห็นคนเยอะแบบนี้เชื่อไหมครับว่าตลาดน้ำอโยธยายังไม่เปิดอย่างเป็นทางการเลย เิปิดตัวครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการวันที่ 2 พ.ค. 2553 และจะเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 5 มิ.ย. 53 อ้อ..ตลาดน้ำอโยธยาสามารถเข้าได้ฟรีนะครับ ไม่เสียค่าเข้า
ลักษณะของตลาดน้ำอโยธยา เป็นเหมือนบึงขนาดใหญ่ แล้วสร้างร้านค้าและทางเดินโดยรอบ มีการสร้างเป็นเกาะอยู่ตรงกลาง มีสะพานไม้เชื่อมต่อถึงกัน ดูแล้วคล้ายๆ กับตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา แต่ใหญ่กว่า และดูสวยกว่า
ในแต่ละโซนจะตั้งชื่อเหมือนตลาดในจังหวัดอยุธยา เช่นโซนตลาดเจ้าพรหม, โซนตลาดเสนา
พื้นที่เดินรอบ โครงการ
| Zone | ประเภทสินค้า |
| A ตลาดท่าเรือ | สินค้า OTOP |
| B ตลาดนครหลวง | เครื่องประดับ |
| C ตลาดบางซ้าย | เครื่องจักรสาน |
| D ตลาดบางบาล | ขนมของฝาก |
| E ตลาดบ้านแพรก | อาหาร, ขนม |
| F ตลาดเสนา | กุ้งสด, ปลาเผา |
| G ตลาดบางไทร | อาหาร, ขนม |
| H ตลาดบางปะหัน | โรตี, ขนม, ของฝาก |
| J ตลาดอุทัย | สินค้าหัตถกรรม |
| K ตลาดภาชี | เครื่องแต่งกาย |
| L ตลาดมหาราช | เฟอร์นิเจอร์ |
| M ตลาดเจ้าพรหม | สินค้าทั่วไป |
| N ตลาดลาดบัวหลวง | สินค้าทั่วไป |
| O ตลาดผักไห่ | สปา |
| P ลานการแสดงกรุงศรีอยุธยา | |
| R เกาะบัวชม | |
| S หอศิลป์ (คุ้มขุนแผน) | |
| T ท่าเรือตลาดบางปะอิน ชุมชนวิถีไทย | |
| U ต้นไทร | |
| V กำแพง | |
| W ท่าขึ้นเรือหัวรอ | |
| X ท่าขึ้นเรือหัวแหลม | |
| Y สำนักงานอโยธยา |
ดูจากเวบไซต์ของตลาดน้ำอโยธยาแล้ว รวมกับที่ได้ไปมา เค้าตั้งใจจะให้ตลาดน้ำอโยธยาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและศึกษาเชิงอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาทั้ง ด้านการแต่งกายสถาปัตยกรรมที่งดงามและคงเอกลักษณ์ขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่น และแสดงพื้นบ้าน ของกินของใช้ในยุคเก่า วิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยๆ ที่เรียบง่าย
บ้านเรือนไทยในภาพด้านบนและด้านล่างนั้น เป็นส่วนของเกาะที่ตั้งอยู่กลางน้ำ สามารถข้ามสะพานมาชมได้ครับ
เดินไประหว่างทางจะเห็นถังดับเพลิงและห่วงยาง อยู่เป็นระยะ แสดงถึงความเอาใจใส่ในความปลอดภัย
เรือขายขนม อาหาร สร้างบรรยากาศแบบตลาดน้ำ ที่นี่มีเรือขายสินค้า อาหารทั้งหมด 50 ลำ และร้านค้าอีก 249 ร้านค้า
เสียดายว่าวันที่ไปเราไม่มีเวลามาก เลยไม่ได้ชมการแสดง ในส่วนของการแสดงนั้นสามารถชมได้ฟรีครับ อ่าน comment ของคนที่เคยชมการแสดง บอกว่าแสดงดีมากเล่นจริง เจ็บจริง แสดงโดยนักแสดงระดับครู
ในส่วนของกิน มีให้เลือกซื้อเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นขนมแบบไทยๆ ก๋วยเตี๋ยวเรือ ส้มตำ ไก่ย่าง น้ำตก อาหารทะเลเผายังมีเลยครับ ที่นั่งกินก็มีทั้งแบบโต๊ะ หรือจะปูเสื่อกินริมน้ำก็ได้บรรยกาศไปอีกแบบ
สำหรับกิจกรรม ที่นี่มีกิจกรรมขี่ช้างด้วยครับ เนื่องจากอยู่ที่เดียวกับปางช้างอโยธยา (ข้างวัดมเหยงคณ์) รู้สึกว่าจะคนละ 40-50 บาท นี่แหล่ะ ถูกมากครับ ก็จะขี่ชมโบราณสถานเก่าวัดมเหยงคณ์
สรุป
ตั้งแต่ไปเที่ยวตลาดน้ำต่างๆ มา ยอมรับเลยว่าตลาดน้ำอโยธยา ทำได้ดีมาก สมบูรณ์แบบทั้งการจัดการ การวางผัง ร้านค้า อาหาร บรรยากาศ ดูดีไปหมด อีกทั้งยังไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย โดยส่วนตัวแล้วชอบที่นี่มาก คิดว่าคงต้องหาเวลามาใหม่อีกครั้งเร็วๆ นี้แน่นอนครับ
Version 2
ใครที่จะมาเที่ยว ตลาดน้ำอโยธยา แนะนำว่าให้ออกซัก 9-10 โมงจะดีมาก ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ อีก 1 ชั่วโมง ถึงเอาสายๆ ตอนที่ตลาดน้ำอโยธยา เปิดพอดี เข้าออกสะดวก รถไม่ติด มีที่จอดรถเยอะเลย ก่อนที่จะถึงที่จอดฟรี จะมีที่จอดแบบเสียตังค์รู้สึกว่า 20 บาท ถ้าไปช่วงเช้าก็ไปหาที่จอดฟรีเอาดีกว่าครับมุมเดิมกับครั้งที่แล้ว แต่ฟ้าใส ไร้เมฆ
ช่วง 10 โมง คนยังมากันไม่เยอะ ถ่ายรูปสะดวกครับ
เข้าไปเดินด้านในตลาดกันครับ
ร้านขายเสื้อ และของที่ละลึก
เรือขายขนมไทย ทำน่ากินดีครับใส่กระเบื้องดินเผา
รอบๆ ตลาดบัวชม ในโซนนี้ขายอาหารครับ เห็นก๋วยเตี๋ยวเรือหลายร้าน น่าทานมาก
เรือพายลำนี้เหมือนจะ เก็บขยะที่อยู่ในน้ำ
เดินได้สักพักเดียว เกิดอยากเข้าห้องน้ำ เห็นป้ายชี้ไปยังห้องน้ำ ห้องน้ำอยู่ในท่อนซุงครับ ลักษณะเหมือนไม้จริงมาก ตอนแรกผมนึกว่าไม้จริง ห้องน้ำเสียค่าเข้าคนละ 3 บาทครับ ห้องน้ำสะอาด ดูดีมาก ที่ฝั่งโถปัสสาวะเป็นผนังกระจก เห็นน้ำตกจำลองที่อยู่ด้านนอก ตกแต่งสวยครับ พอดีว่ามีคนทำธุระอยู่ในห้องน้ำ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู
สำหรับคนที่ชอบนวด คลายเส้น แนะนำโซนตลาดผักไห่ครับ มีนวดตัวแผนไทย นวดคลาดเครียด นวดเท้า สปา รับรองว่านวดเสร็จเดินตัวเบาออกมาเลย
มาดูในส่วนของกินบ้าง มีร้านอาหารหลายร้าน ให้เลือกซื้อ เลือกชิมกัน เช่น ผัดไทย หอยทอด ก๋วยเตี๋ยวเรือ อยุธยา
ซื้อแล้วก็มานั่งทานกันตรงนี้เลย
ที่นั่งมีพอสมควร แต่ช่วงเวลาที่คนมาเยอะๆ ก็ไม่พอนั่งเหมือนกัน
ถ้าเดินไปที่เกาะกลาง ตลาดบัวชม จะเป็นที่นั่งในร่ม ซ้าย-ขวาก็จะมีแม่ค้าพายเรือมาขายของ ได้บรรยากาศแบบตลาดน้ำเลยครับ ซื้อของกินกันแล้วก็กินบนเสื่อเลย ง่ายดี
เดินไปได้สักพัก ได้ยินเสียงประกาศว่ามีการแสดงรอบ 10.30 น. ที่หอศิลป์
หอศิลป์จะตั้งอยู่ที่เกาะกลางน้ำ ถ้าอยากจะชมการแสดง เราก็ต้องหาทำเลที่ทางเดินรอบๆ ดูแล้วไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ก็ยืนดูครับ การแสดงแรกที่เราดูนั้นเป็น การแสดง อาวุธโบราณ โดย สำนักดาบ ศ.พุทไธสวรรค์ เนื้อเรื่องไม่มี แต่พอจะเดาได้ว่าเป็นการรบระหว่างไทยกับพม่า นักแสดงฟันดาบกันจริงๆ ครับ เสียบดาบกระทบกันตลอด กว่าจะเป็นการแสดงชุดนี้คงต้องซ้อมกันไม่น้่อยเลยทีเดียว ถึงได้่รู้จังหวะกันแบบนี้
ต่อไปเป็นการแสดง นาฏศิลป 4 ภาค ก็เป็นการรำของภาคต่างๆ
ใช้เลนส์เทเล ซูมเข้าไปที่นักแสดงครับ
ระหว่างดูการแสดงมีเรือพายผ่านมาพอดี เป็นเรือพาเที่ยมชมรอบๆ ตลาดน้ำอโยธยา ค่าบริการคนละ 20 บาท
นอกจากการแสดงแบบไทยๆแล้ว ยังมีการนำช้างมาเล่นน้ำคลายร้อน เห็นป้ายบอกไว้ว่าน้ำลึก 3 เมตร ดูแล้วก็น่าจะจริง เพราะช้างลงไปทั้งตัว ยังโผล่ได้แค่หัวเลย ตอนแรกมาเล่นน้ำกัน 2-3 เชือก
มีสมาชิกมาลงเล่นน้ำเพิ่มอีก 2 เชือก
เล่นน้ำกันอย่างมีความสุข อยากเห็นช้างอยู่ในที่ๆ มันควรจะอยู่ มากกว่าเห็นช้างเดินตามท้องถนน
ภาพธงชาตินี้ สำหรับคนไทยทุกคนครับ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะขี่ช้าง ทางตลาดน้ำอโยธยา ก็มีบริการขี่ช้างพาเที่ยวชมโบราณสถาน วัดมเหยงคณ์ ค่าบริการคนละ 100 บาท รอบนึงประมาณ 20 นาทีได้ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=864811225807911038
1. วัดพระพระศรีรัตนศาสดาราม
